คุยกับพี่วันใหม่ ณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์

แรงบันดาลใจจากการรับ สร้างแรงขับเคลื่อนสู่การให้

สวัสดีครับน้องวันใหม่ แนะนำตัวเองหน่อยครับ

สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์ ชื่อเล่น วันใหม่ ค่ะ อายุ 24 ปี ค่ะ เพิ่งจบการศึกษาจากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บริษัท Vulcan Coalition จำกัด ค่ะ

น้องวันใหม่คิดว่าการศึกษามีความสำคัญอย่างไรบ้าง

หนูคิดว่ามีความสำคัญมากนะคะ การเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพียงแค่เราได้ความรู้ แต่ฟังก์ชันแฝงของมันคือการที่เราได้รู้จักคนในมหาวิทยาลัย ทำให้เราได้มีเพื่อน เวลาที่เราเรียนจบออกมาอย่างน้อย ๆ เพื่อนเราอาจจะมีแนะนำบ้างว่า เธอมาสมัครงานที่นี่มั้ย อะไรทำนองนี้ มันก็ทำให้เหมือนมีเครือข่ายทางสังคมค่ะ

แล้วถ้าถามหนู หนูก็อยากให้น้อง ๆ ได้เรียนหนังสือ ได้เจอกับเพื่อน ๆ มันก็เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้ค่ะ

เล่าขั้นตอนของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ฟังหน่อยครับ

ในส่วนโควต้าของคนพิการ ก็จะมีการจัดสอบเฉพาะของคนพิการ มีทั้งเคลื่อนไหว มีตา มีทุกความพิการ เวลาสอบก็จะเป็นข้อสอบแบบข้อเขียน และข้อสอบแบบกาด้วย เหมือนเป็นข้อสอบวัดความเข้าใจ สำหรับในปัจจุบันก็มีการสอบแบบใหม่แล้ว จะดูที่คะแนน GAT PAT เป็นหลัก

แล้วทำไมถึงเลือกเรียนคณะสังคมสงเคราะห์

จริง ๆ ก็เคยมีความฝันอยากจะเป็นแอร์ อยากจะเป็นนักธุรกิจ และก็อยากจะเป็นข้าราชการ แต่พอมาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งตอนนั้นที่หนูเกิดอุบัติเหตุ ก็มีหลายหน่วยงานมาช่วยเหลือเราค่อนข้างเยอะ หนึ่งในนั้นก็มีนักสังคมสงเคราะห์มาช่วยด้วย ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยได้ยินชื่อวิชาชีพนี้เลย หลังจากนั้นเราก็มาดูว่านักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทหน้าที่อะไรบ้าง เราเองก็เคยได้รับการช่วยเหลือมาก่อน ทำให้ เราอยากช่วยเหลือกลับไป เลยกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่อยากจะต่อยอดต่อด้วย

อีกอย่างคือจริง ๆ แล้วหนูชอบการให้คำปรึกษาด้วยค่ะ คือเราเป็นคนที่ประทับใจกับวิชานี้มาก แต่ก่อนคิดว่า การ Counseling (การให้คำปรึกษา) มันง่ายแต่พอได้ทำจริง ๆ มันยาก พอทำไปเรื่อยๆ มันทำให้เรามีประสบการณ์ เรารู้สึกว่าเราปรับตัวได้ไว และเหมือนเราหัวไวในด้านนี้ค่ะ มันก็เลยทำให้เรามีความสนใจ ในงานของ Counseling (การให้คำปรึกษา) และก็อีกอย่างหนูน่าจะถนัดด้านสังคมค่ะ ก็เลยเรียนต่อในด้านนี้ค่ะ

บรรยากาศการเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง

ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่อนข้างเปิดกว้างนะคะ อาจารย์จะมีความเข้าใจในข้อจำกัดของเรา เลยทำการเรียนค่อนข้างง่ายค่ะ ในส่วนของเพื่อนเขาก็เข้าใจเรา เพราะว่าด้วยธรรมศาสตร์เป็นสถานที่ ที่คุ้นเคยกับคนพิการค่ะ เขาจะรู้ว่าวิธีการช่วยเหลือคนพิการ และก็จะมีชุมนุมที่ชื่อว่าเพื่อนโดมสัมพันธ์ ก็จะมีทั้งคนพิการ และคนไม่พิการได้มาอยู่ร่วมกัน ทำให้คนพิการได้ปรับตัวอยู่กับเพื่อนที่ไม่พิการ ส่วนเพื่อนที่ไม่พิการ เขาก็ได้เรียนรู้ในความเป็นเรา ก็ทำให้เราได้มีเพื่อนมากขึ้น

มีการปรับตัวอย่างไรบ้าง กับการเรียนในมหาวิทยาลัย

สิ่งจำเป็นมากก็คือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ หมายถึงว่า ถ้าเรารู้ว่าเราไม่ทัน เราก็ต้องไปหาเขาเลย อย่ารอให้เขามาตามเราเพราะเขาไม่มีทางรู้หรอกว่าใครเป็นคนพิการ เพราะนักศึกษามีเยอะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเดินเข้าไปหาเขาเลย ว่าเรามีข้อจำกัดอะไรบ้าง ตอนเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องปรับตัวเยอะอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนพิการก็ต้องปรับตัวระดับหนึ่งอยู่แล้ว สำหรับช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัย แต่พอเรียนไปได้สักช่วงปีสอง ปีสาม เราก็กล้าพูดมากขึ้น กล้าคุย กล้าสื่อสาร ต้องเป็นสเตป ๆ ไปค่ะ

เรื่องราวประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัย

มีสิ่งที่เราประทับใจมาก ๆ เลย คือช่วงปีหนึ่ง คือหนูได้ไปค่ายเด็กที่ชัยภูมิ และวันนั้นเป็นวันเกิดของหนูพอดี เราก็อยู่ของเราเฉย ๆ แล้วอยู่ ๆ เพื่อนก็บอกว่า ให้วันใหม่เดินไปข้างหน้า ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ดังมาก ๆ เพื่อน ๆ ก็กรูเข้ามาเลย ทำให้น้ำตาไหลนิดนึงนะ เพราะว่าความรู้สึกเหมือนเราเพิ่งเข้ามาปีแรก เขาก็ให้ความสำคัญกับเรา และอวยพรเราในงานเลย ที่ค่ายเด็กเลย ทำให้หนูรู้สึกประทับใจมาก ๆ ค่ะ

หลังเรียนจบ ต้องเตรียมตัวสมัครงานอย่างไรบ้าง

หนูต้องทำเรซูเม่ ก็จะเขียนแนะนำตัวเองแบบสั้น ๆ ไม่ต้องยาวมาก ถ้าเคยเคยฝึกงานที่ไหนก็จะเขียนใส่ลงไปเลย มีประสบการณ์การทำงานที่ไหน อย่างไรบ้างก็จะใส่ลงไปค่ะ อย่างหนูเองทำงานที่ Vulcan Coalition ก็จะเขียนลงไป แล้วก็ใส่ไปว่าเรามีเป้าหมายอะไรในการทำงาน และเราต้องการเชี่ยวชาญในสายงานนั้นนะ เขียนอธิบายลงไปให้ชัดเจน

จะแนะนำน้อง ๆ ที่มีความฝันอย่างไรบ้าง

อย่างแรกเลยนะคะ ต้องคุยกับตัวเองก่อน ถ้าคิดอยู่ในหัวมันก็จะวนไปวนมา ก็ลองเขียนออกมาเลย ว่าเป้าหมายในชีวิตเราต้องการอะไร อาจจะเป็นเป้าหมายแบบไม่ต้องทางการมาก อาจจะแค่อยากไปต่างประเทศ คือเราต้องเขียนไปเลยให้เคลียร์ ๆ ไปเลยว่าเราต้องการอะไร ความถนัดเราคืออะไร เรามีความชอบอะไร แล้วอะไรที่เราไม่ถนัด เรามีอะไรบ้าง แล้วลองมาดู ว่าเราจะไปทางไหนได้บ้าง

อยากฝากอะไรถึงผู้ประกอบการที่อยากจ้างงานคนพิการ

อยากฝากให้ทางองค์กรที่ได้ดูค่ะ อยากให้เปิดใจรับคนพิการเข้าทำงาน อยากให้เห็นถึงศักยภาพในตัวคนพิการ เพราะในตัวคนพิการจริง ๆ หลาย ๆ คนเก่งมากนะคะ แค่ยังไม่ได้รับโอกาสค่ะ อยากให้ทางองค์กรหลาย ๆ ที่ ลองพิจารณาเปิดรับคนพิการให้เข้าทำงานค่ะ

credit-1

เรื่อง :

คชรักษ์ แก้วสุราช

credit-2

ภาพ :

จรรสมณท์ ทองระอา

อ่านพี่ขอเล่าเรื่องอื่น ๆ

Scroll to Top